เรื่องราวของ “The Killer” (2023) เป็นเรื่องราวของชายผู้โดดเดี่ยวและแสนเย็นชาที่มีระเบียบวินัยเป็นอุปนิสัยหลักและไม่ยึดติดภาระผูกพันใด ๆ จากเศร้าโศกและไร้ศีลธรรม เขาเป็นนักฆ่าที่มักจะแอบซ่อนอยู่ในเงามืด เฝ้าดูเป้าหมายต่อไปของตัวเอง แต่ยิ่งเขารอนานมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็คิดว่าตัวเองกำลังจะเสียสติมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และมันเกิดเป็นความผิดพลาด ดังนั้นมันจึงมาถึงจุดแตกหักที่ทำให้เขาเปิดศึกกับผู้ว่าจ้าง พร้อมกับยืนกรานว่ามันไม่ใช่ความแค้นส่วนตัวแต่อย่างใด
ผู้กำกับที่เข้าชิงออสการ์มาถึง 3 ครั้ง อย่าง “เดวิด ฟินเชอร์” กลับมาวาดลวดลายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อีกครั้ง ถือว่าเป็นผลงานหนังใหญ่ในรอบ 3 ปีเต็มของเขา และเรื่องนี้ก็นับว่าเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่เขาอยากจะทำมากที่สุดอีกเรื่องในชีวิตของเขาด้วย ทั้งลีลาและสไตล์ที่ถ่ายทอดออกมาถือว่าไว้วางใจได้เลย เขาถนัดในการสร้างงานอาร์ตที่แสนคมคาย ด้วยการจดจ่อในสมาธิและสร้างบรรยากาศได้อย่างแยบยล
หลังเกือบพลาดเป้าจนเป็นเรื่อง มือสังหารเปิดศึกกับผู้ว่าจ้างและตัวเองในปฏิบัติการไล่ล่าข้ามโลก ซึ่งเขายืนกรานว่าไม่ใช่ความแค้นส่วนตัว